ชนวน รัตนวราหะ
ระบบเกษตร หมายถึง ระบบนิเวศ ของไร่นา ณ ช่วง เวลาหนึ่ง ที่ประกอบด้วย ปัจจัยด้านต่างๆ ได้แก่ ปัจจัยด้าน กายภาพ(ดิน น้ำ อากาศ แสงแดด) ชีวภาพ(พืช สัตว์ จุลินทรีย์ ฯลฯ) เศรษฐกิจ-สังคม(ราคาพืชผล ต้นทุนการผลิต ความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพฯลฯ) ทั้งที่เกิดจากมนุษย์ได้กระทำขึ้นและที่มีเกิดขึ้นอยู่แล้วในธรรมชาติ มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ระบบเกษตรในอดีตตั้งแต่สมัยโบราณ มนุษย์ได้เรียนรู้ประสบการณ์ในชีวิตประจำวันจากสิ่งที่มีและเกิดขึ้นในระบบนิเวศตามธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอย่างผสมผสานและสมดุล ทั้งนี้มนุษย์ได้เรียนรู้และได้นำประสบการณ์เหล่านั้นมาประยุกต์ใช้ในการจัดการระบบเกษตรเพื่อผลิตอาหารเลี้ยงชีพอย่างอุดมสมบูรณ์ตลอดมา
ตราบจนกระทั่งจะได้มีการคิดค้นเครื่องจักรไอน้ำเมื่อ พ.ศ. 2348 หรือประมาณ 300 ปี และต่อเนื่องมาจนถึงยุคที่มนุษย์ได้ผลิตปุ๋ยเคมีเพื่อใช้ในการเกษตรเมื่อประมาณ 170 ปีมานี้ (พ.ศ.2385) และสารเคมีสังเคราะห์กำจัดศัตรูพืชเมื่อประมาณ 70 ที่ผ่านมา (พ.ศ.2482) ซึ่งได้มีอิทธิพลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเกษตรที่จากเดิมที่ใช้ประสบการณ์และพึ่งพิงธรรมชาติ มาเป็นการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีที่มนุษย์พยายามจะเบี่ยงเบนออกจากธรรมชาติ เพื่อสนองความต้องการที่จะผลิตเพื่อการค้าให้เกิดผลกำไรสูงสุด ระบบเกษตรจึงได้เปลี่ยนแปลงไปจากการผลิตเพื่อการบริโภคเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์เป็นสำคัญ
ระบบเกษตรกับผลกระทบจากระบบการค้าเสรี
จากเดิมที่มนุษย์ได้ใช้หลักการพึ่งพิงธรรมชาติ เลียนแบบอย่างที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งมีความหลากหลายผสมผสาน มีความสมดุล และตอบสนองความต้องการบริโภคของมนุษย์ที่จำเป็นต้องได้อาหารครบหมู่ อาทิ แป้ง น้ำตาล โปรตีน เส้นใย วิตามิน เกลือแร่ รวมทั้งอาหารที่เป็นยารักษาโรคไปพร้อม ๆ กัน เกิดขึ้นจากความหลากหลายทางชีวภาพในระบบเกษตร ดังปรากฏให้เห็นจากสวนผสมผสานที่บรรพบุรุษไทยได้ทำไว้และยังเหลือให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเอามาเป็นตัวอย่างในทุกภาคของประเทศ
ด้วยความเปลี่ยนของระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันในระบบการค้าเสรีที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อให้เกิดผลกำไรสูงสุดเป็นเป้าหมายสำคัญ ฉะนั้นการผลิตทั้งการอุตสาหกรรม บริการ รวมทั้งการเกษตร ได้ตกอยู่ในระบบการแข่งขันทั้งสิ้น โดยเฉพาะตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ระบบการผลิตทางการเกษตรเพื่อการแข่งขันได้เข้ามาพร้อมกับเทคโนโลยีทันสมัยที่สนองต่อการผลิตเพื่อการแข่งขัน โดยที่มีการเรียกขื่อว่า “The Green Revolution Technology” ซึ่งเป็นการเกษตรที่ต้องพึ่งพาปัจจัยภายนอกเพื่อการเพิ่มผลผลิต ซึ่งได้แก่ ปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืช สารปฏิชีวนะ สารเคมีกำจัดวัชพืช ฯลฯ
การเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรในประเทศไทย
แต่เดิมเกษตรกรไทยส่วนใหญ่จะเน้นการผลิตเพื่อการพึ่งตนเองในการบริโภคเป็นเป้าหมายสำคัญ เมื่อเวลาเปลี่ยนแปลงไป และแรงผลักดันจากนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวทางของการค้าเสรี ได้มีอิทธิพลให้เกษตรกรไทยหันมาผลิตเพื่อขายเพื่อหวังกำไรแล้วนำเอาส่วนที่กำไรนั้นไปซื้ออาหารและปัจจัยการดำรงชีพ ฉะนั้น ระบบการเกษตรจากเดิมมีความหลากหลายผสมผสานเพื่อการพึ่งตนเอง ใช้ปัจจัยการผลิตที่พึ่งตนเองตั้งแต่ปุ๋ย เครื่องมือการเกษตร ฯลฯ ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยเพื่อการผลิตที่มีประสิทธิภาพแต่ต้องใช้ปัจจัยการผลิตที่ต้องซื้อหาจากภายนอกจนไม่สามารถพึ่งตนเองได้ทั้งในระดับปัจเจกและระดับประเทศ
ดังจะเห็นได้จากในทุกขั้นตอนของการผลิตข้าวซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ แต่เดิมชาวนาไทยพึ่งตนเองได้ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมดิน ไปจนถึงได้ผลผลิตข้าวสารที่บริโภคสามารถใช้ปัจจัยการผลิตที่เกิดจาการพึ่งตนเอง แต่ในปัจจุบัน ภายหลังจากมีการพัฒนาการเกษตรภายใต้นโยบายการค้าเสรีชาวนาไทยต้องใช้เงินซื้อปัจจัยการผลิตทุกขั้นตอน โดยปัจจัยการผลิตเกือบทั้งหมดต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ระบบเกษตรเชิงเดี่ยว
ระบบเกษตรในยุคของการค้าเสรีนั้น ส่วนใหญ่หรือทั้งหมดจะเป็นการเกษตรเชิงเดี่ยว(Monoculture) ซึ่งเน้นการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ชนิดเดียวและจำนวนมาก ๆ ในพื้นที่ที่จำกัด ซึ่งระบบการผลิตดังกล่าวนี้จะเป็นการฝืนหลักความเป็นไปของธรรมชาติที่มีผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศ และเป็นสาเหตุของการระบาดของโรคและศัตรูพืชอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ฉะนั้น เพื่อให้รอดพ้นจากผลผลิตถูกทำลายด้วยโรคและศัตรูพืช มนุษย์จึงต้องใช้ปัจจัยในการควบคุมโรคและศัตรูพืช ได้แก่ สารปฏิชีวนะ สารเคมีกำจัดโรคและศัตรูพืช โดยที่สารดังกล่าวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพิษต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม เมื่อมีการใช้สารพิษดังกล่าวผลผลิตการเกษตรก็จะเกิดปัญหาพิษตกค้างในผลผลิตที่นำไปเป็นอาหารของมนุษย์และสัตว์เลี้ยง
ระบบเกษตรเชิงพาณิชย์กับการขยายตัว
ความรุนแรงและเข้มข้นของการแข่งขันในระบบการค้าเสรีที่มักจะอ้างเหตุผลของประชากรของโลกเพิ่มมากขึ้นจึงจำเป็นต้องเร่งผลิตผลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อเลี้ยงประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้น ระบบการเกษตรเชิงพาณิชย์จึงได้แผ่ขยายเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา คานาดา ฯลฯ ในส่วนของประเทศไทยก็ได้เริ่มก่อตัวจากอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่แบบกรงตับ(Battery Chicken) และการขังรวมตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 เป็นต้นมา นับเป็นธุรกิจที่สร้างผลกำไรให้กับเจ้าของกิจการอย่างมหาศาล
ผลกระทบของการเกษตรเชิงพาณิชย์
- ด้านสุขภาพของผู้บริโภค สารตกค้างในผลผลิตฮอร์โมน สารปฏิชีวนะ สารพิษกำจัดศัตรูพืช
- ด้านสิ่งแวดล้อม พื้นที่บนที่สูงซึ่งเป็นแหล่งของต้นน้ำลำธารได้ถูกบุกรุกเพื่อปลูกพืชอาหารสัตว์โดยเฉพาะข้าวโพดเป็นสาเหตุสำคัญของแผ่นดินถล่ม น้ำป่าไหลท่วมพื้นที่ราบ
- พลังงานที่สิ้นเปลืองจากการใช้ผลิตปัจจัย การผลิตเพื่อเป็นอาหารสัตว์ ปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืชมีปริมาณสูงมาก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน
ข้อคิดเห็น
มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งธรรมชาติ มนุษย์ได้รับบทเรียนที่ธรรมชาติได้สั่งสอนด้วยการลงโทษจากการที่มนุษย์อหังการอวดดีที่จะเอาชนะธรรมชาติ ปัญหาโลกร้อน ซึ่งได้ส่งผลกระทบลูกโซ่ให้เกิดความผันแปรต่าง ๆ ในโลกนี้ เช่น Tsunami ,Tornado, น้ำท่วม ฝนแล้ง ดินถล่ม, มนุษย์เป็นโรคร้ายที่ไม่เคยเป็นมาแต่ก่อนจากการรับประทานอาหารที่เรียกว่า อาหารขยะ(Junk Food) สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์เพียงพอที่จะสอนให้มนุษย์ได้มีความตระหนักต่อปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบเกษตรเชิงพาณิชย์ทั้งสิ้น ภาพของป่าไม้บนภูเขาถูกทำลายซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาฝนแล้งและน้ำท่วมและเป็นสาเหตุที่ทำให้ประเทศไทยต้องเสียงบประมาณ 3.5 แสนล้านเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รวมไปถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรไทย ไม่สามารถทำการเกษตรได้อย่างปกติที่เคยเป็นมาในอดีตและเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นหนี้สิน มีสภาพที่ยากจน สิ่งเหล่านี้น่าจะเพียงพอที่จะเตือนให้คนไทยส่วนใหญ่ได้สำนึกว่า “คนต้องเคารพและอยู่กับธรรมชาติอย่างกลมกลืน” ฉะนั้นระบบเกษตรที่คนไทยต้องทบทวนและหันมาสนใจก็คือ ระบบเกษตรแบบผสมผสานหลากหลายเพื่อความสมดุลตามธรรมชาติ เพื่อให้มนุษย์สามารถดำรงชีพกลมกลืนกับธรรมชาติ